10 นักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก (9 สิงหาคม 2559)

10. ริคาร์โด้ กาก้า - 56 ล้านปอนด์
ย้อนเวลากลับไปเมื่อราวๆ 8 ปีก่อนสถิตินักเตะค่าตัวที่แพงที่สุดในโลกถูกบันทึกโดนน้ำมือของ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่ง ลา ลีกา สเปน ด้วยการทุ่มเงินจำนวนมหาศาล 56 ล้านปอนด์พรากตัว ริคาร์โด้ กาก้า เทพบุตรลูกหนังขวัญใจสาวๆ มาจาก เอซี มิลาน ทว่าน่าเสียดายที่ตัวนักเตะต้องเจอกับชีวิตอาพับในรั้ว ซานติอาโก้ เบร์นาเบว กับปัญหาอาการบาดเจ็บรุมเร้า จนทำให้ปัญหาการลงเล่นที่ต่อเนื่องตามมา ตลอดจนตัว กาก้า ไม่สามารถงัดฟอร์มที่เก่งกาจออกมาอย่างที่เคยเป็นได้ จนสุดท้ายสิ้นสุดระยะเวลา 4 ฤดูกาลก็ได้กลับไปตายรังที่ เอซี มิลาน อีกครั้งหนึ่งแบบไม่มีค่าตัว

9. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช - 59 ล้านปอนด์
จากผลงานสุดพีคที่โชว์ไว้กับ อินเตอร์ มิลาน ทำให้ บาร์เซโลน่า ตัดสินใจทุ่มแหลกสะบั้นด้วยการขนเงินกว่า 59 ล้านปอนด์ พ่วง ซามูเอล เอโต้ ยื่นหมูยื่นแมวแลกตัว ซลาตัน อิบราฮิโมวิช มาล่าตาข่ายในรั้ว คัมป์ นู เมื่อปี 2009 และถือเป็นค่าตัวที่แพงเป็นสถิติของสโมสร ณ ตอนนั้น แต่ผลงานที่ออกมากลับไม่เป็นตามที่คาดหวัง โดยยิงไปเพียง 22 ประตูตลอด 2 ฤดูกาล แถมยังมีข่าวพัวพันเรื่องเกาเหลากับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อีกด้วย จนท้ายที่สุด อิบราฮิโมวิช ก็ถูกส่งตัวกลับ อิตาลี โดยไปอยู่กับ เอซี มิลาน ด้วยค่าตัว 24 ล้านยูโร และก็สามารถเรียกตัวมั่นใจกลับมาได้ด้วยการซัดประตูแหลกลาน พร้อมกับได้สัมผัสกับถ้วย กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี 

8. อังเคล ดิ มาเรีย - 59.7 ล้านปอนด์
อังเคล ดิ มาเรีย นับเป็นผู้เล่นที่มีส่วนร่วมและช่วยเหลือทีม เรอัล มาดริด มากที่สุดคนหนึ่งนับแต่ย้ามาจาก เบนฟิก้า เมื่อปี 2010 ด้วยความรวดเร็วว่องไว การแหวกทะลุทะลวง กระชากลากเลื้อย นี่คือจุดเด่นที่สุดของ ดิ มาเรีย อย่างไรก็ตามเมื่อการมาของ แกเร็ธ เบล ในปี 2013 ก็ทำให้บทบาทของ ดิ มาเรีย เริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ จนต้องระเห็จเป็นตัวสำรองยาวๆ ไปโดยปริยาย และในท้ายที่สุดก็จำใจต้องย้ายถิ่นฐาน โดยถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซื้อตัวไปในค่าตัว 59.7 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเกิดเป็นสถิติค่าตัวแพงที่สุดในเกาะอังกฤษ แต่พอย้ายมาก็ต้องเจอพิษของแดนผู้ดีกับการถูกวิจารณ์ถูกแขวะอย่างหนัก เมื่อผลงานที่ออกมามันไม่แมตช์กับค่าตัวที่ "ปีศาจแดง" ยอมจ่าย และนั่นทำให้ ดิ มาเรีย จำต้องย้ายถิ่นฐานอีกครั้งไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

7. ฮาเมส โรดริเกซ - 64 ล้านปอนด์
เด็กปั้นจาก เอ็นวิกาโด้ ในลีก โคลอมเบีย มาฉายแววโดดเด่นตอนสมัยอยู่กับ เอฟซี ปอร์โต้ ในบทบาทจอมทัพที่มีเทคนิค, ความคล่องตัวและพรสวรรค์เป็นเลิศ ชื่อของ ฮาเมส โรดริเกซ ได้กลายเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องตาต้องใจของเหล่าบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปก็ตอนศึก ฟุตบอลโลก ปี 2014 จนสุดท้ายเป็น เรอัล มาดริด ที่ยอมจ่ายเงินมหาศาลถึง 64 ล้านปอนด์ให้กับ โมนาโก เพื่อแลกกับการคลายตัวแข้งวัย 22 ปีรายนี้ ฮาเมส แทบไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวอะไรเลยกับทัพ "ราชันชุดขาว" ในยุคของ คาร์โล อันเชล็อตติ ตลอดจนยุคของ ราฟาเอล เบนิเตซ เขาได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเขาเจ๋งพอที่จะสวมยูนิฟอร์ม เรอัล มาดริด ได้ แต่พอ ซีเนดีน ซีดาน ได้ขึ้นมากุมบังเหียนแบบเต็มตัวชีวิตของ ฮาเมส ก็เปลี่ยนไป

6. หลุยส์ ซัวเรซ - 65 ล้านปอนด์
โด่งดังสุดๆ กับคดีกัดทั้งกับสโมสร ลิเวอร์พูล ไล่ยาวไปจนถึงศึก ฟุตบอลโลก 2014 กับการถูก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ "ฟีฟ่า" สั่งแบนห้ามลงโม่แข้งนานถึง 4 เดือนจากข้อหาไปงับแขน จอร์โจ คิเอลลินี่ อย่างไรก็ตามเคสดังกล่าวไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการตัดสินใจเซ็นสัญญานักเตะคนนี้ของ บาร์เซโลน่า ถึงแม้รู้ทั้งรู้ว่าจะไม่สามารถใช้งาน หลุยส์ ซัวเรซ ก็ตาม แต่สุดท้ายเมื่อถึงคราวนักเตะได้ทีโชว์การวาดลวดลายบนสนาม ซัวเรซ ใช้เวลาปรับตัวเพียงแค่ระยะเดียวเท่านั้นจนได้กลายมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ "บาร์ซ่า" พร้อมผนึกกำลังกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ เนย์มาร์ พาทีมไล่กวาดแชมป์เป็นว่าเล่น และนั่นทำให้ค่าตัว 65 ล้านปอนด์ดูถูกไปปริยายเลยจริงๆ

5. เนย์มาร์ - 71.5 ล้านปอนด์ 
เจ้าหนูวันเดอร์คิดชาวบราซิลเลี่ยนได้กลายเป็นที่หมายปองของหลายทีมยักษ์ในยุโรปจากการโชว์ฟอร์มระดับเทพกับ ซานโต๊ส และสุดท้ายสโมสรก็ยอมปล่อยมาอยู่กับ บาร์เซโลน่า ในปี 2013 ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 57 ล้านยูโร แต่ ซานโดร โรเซลล์ ประธานสโมสรในขณะนั้น และ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว รองประธานสโมสรกลับถูกสืบสวนว่าทำการซื้อขายผิดกฏ แถมยังโยงยาวไปถึงครอบครัวของ เนย์มาร์ อีกด้วย  ไปๆ มาๆ ในภายหลังมีการตรวจสอบตัวเลขพบว่าจริงๆ แล้ว เนย์มาร์ มีค่าตัวที่สูงถึง 71.5 ล้านปอนด์เลยทีเดียว ซึ่งถึงแม้เรื่องต่างๆ มันจะดูวุ่นวาย แต่ถึงกระนั้นผลงานของ เนย์มาร์ จูเนียร์ ก็จัดว่าตอบแทนเม็ดเงินที่สโมสรได้ทุ่มเทลงไปได้อย่างคุ้มค่า และกลายเป็น 1 ในสามประสานแนวรุกที่อันตรายที่สุดของโลกไปแล้ว ณ เวลานี้

4. กอนซาโล่ อิกวาอิน - 75.3 ล้านปอนด์
กอนซาโล่ อิกวาอิน เป็นนักเตะที่ตกเป็นข่าวย้ายทีมทุกช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะอย่างแท้จริง ซึ่งในช่วงหน้าร้อนนี้ก็เช่นกันเขาได้รับความสนใจอย่างหนักจาก อาร์เซน่อล และ ยูเวนตุส แต่การจะได้ตัวเขามาครอบครองนั้น นาโปลี ก็วัดใจด้วยการได้ตั้งข้อแม้เอาไว้ว่า หากใครกระสันได้ลายเซ็น อิกวาอิน ต้องได้ค่าฉีกสัญญาที่ 94 ล้านยูโร หรือประมาณ 75-76 ล้านปอนด์ จากจำนวนค่าตัวดังกล่าวทำให้ดีลโยกย้ายของนักเตะส่อแววจะไม่เกิดขึ้น แต่ท้ายที่สุดก็เป็นทางฝั่ง "เบียงโคเนรี่" ที่น่ามืดตัดสินใจยอมจ่ายเงินก้อนโตจำนวนนั้นเพื่อลาก อิกวาอิน ไปรับบทบาทล่าสกอร์ให้ทีมด้วยค่าตัวที่สูงที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี 

3. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - 80 ล้านปอนด์
ในปี 2009 ริคาร์โด้ กาก้า ได้ทำลายสถิติด้วยการครองตำแหน่งนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกแทนที่ ซีเนดีน ซีดาน แต่แค่ไม่กี่อึดใจเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้นชื่อของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ได้ถูกจารึกว่าเป็นแข้งที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกที่ 80 ล้านปอนด์ หลังจาก เรอัล มาดริด ได้ทุ่มทุนดึงตัวมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งการลงทุนในวันนั้นมันเห็นคุณค่ามากมายมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะเจ้าของโค้ดเนม "CR7" นั้นได้กอบเงินเป็นจำนวนมากเข้าสู่ตัวสโมสร ทั้งเรื่องของภาพลักษณ์, ผลงานในสนาม รวมถึงการพาทีมคว้าแชมป์ โดยปัจจุบัน โรนัลโด้ ได้รับการขนานนามว่าคือ 1 ใน 2 นักเตะที่ดีที่สุดในโลกแห่งวงการฟุตบอลยุคนี้ กับผลงาน 364 ประตูจาก 348 เกมในทุกรายการในสีเสื้อ "ราชันชุดขาว"


2. แกเร็ธ เบล - 86 ล้านปอนด์
จากนักเตะธรรมดาที่ประจำการในตำแหน่งฟูลแบ็กได้ก้าวไกลสู่ผู้เล่นตำแหน่งปีกที่น่ากลัวที่สุดในโลก ณ เวลา นี้ แกเร็ธ เบล ได้กลายเป็นเจ้าของค่าตัวที่แพงที่สุดเป็นสถิติโลก ณ ปัจจุบันที่ 100 ล้านยูโร หรือ 86 ล้านปอนด์ หลัง เรอัล มาดริด ได้ตัดสินใจจ่ายหนักกระชากมาจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งเจ้าของฉายา "พญาวานรเทพ" อาจจะดูตื่นๆ รนๆ ตะกุกตะกักไปบ้างในช่วงแรกจนแฟนๆ บางกลุ่มต่อต้านและโห่ใส่แทบทุกเกม แต่ผลสุดท้าย เบล ก็สามารถเอาชนะใจแฟนๆ จนกลายมาเป็นขวัญใจอันดับต้นๆ ของ "ราชันชุดขาว" ณ ตอนนี้ ผลงาน 58 ประตูจาก 123 เกม อาจจะดูถูกไปหน่อยกับตัวเลข 86 ล้านปอนด์ ทว่าเรื่องการมีส่วนร่วมกับทีม และประตูชี้ชะตาวัดใจ เบล มักจะตอบสนองให้กับทีมได้ตลอด


1. พอล ป็อกบา - 89 ล้านปอนด์
สิ้นสุดกันทีกับมหากาพย์ที่คาราคาซังมาเนิ่นนานหลายเดือน สุดท้ายมันก็ลงเอยด้วยดีและก็เป็นไปตามเป้า แม้ตลอดช่วงที่ผ่านมาจะข่าวในหลายๆ แง่แทรกซ้อนเข้ามากวนใจก็ตาม วันที่ 9 สิงหาคม ช่วงเช้าๆ ตามเวลาบ้านเรา สถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกได้ถูกทำลายลงอีกครั้ง ทว่าไม่ใช่จากฝีมือของ เรอัล มาดริด แต่เป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่คราวนี้เขาเป็นพระเอกในตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ด้วยการทุ่มทุนเงินจำนวนมหาศาลถึง 89 ล้านปอนด์ในการดึงตัว พอล ป็อกบา กลับบ้านเก่า โรงละครแห่งความฝัน ทั้งที่ตอนปล่อยไปให้กับ ยูเวนตุส นั้นพวกเขาปล่อยไปแบบไม่ได้เงินเลยสักกะบาทเดียว หลายคนอาจจะมองว่าทำไมค่าตัวมันแพงจังเลยกับเด็กแค่อายุ 23 ปีและก็เป็นผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิดล์ตัวกลาง ถ้าให้คิดในแง่บวกก็คือ คือช่วงเวลา 4 ปีที่พลัดพรากกันไปนั้นได้วานให้ ยูเวนตุส ช่วยปลุกวิญญาณและอัพเลเวลให้โดยมีเล่าเรียนปีละ 22.25 ล้านปอนด์ก็แล้วกัน ส่วนเรื่องจะคุ้มค่าตัวไหมคราวนี้ก็อยู่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด และ โชเซ่ มูรินโญ่ ว่าจะจัดการยังไง แต่ที่แน่ๆ คือตอนนี้เป้าหมายของ "ปีศาจแดง" ไม่ใช่แค่การจบท็อปโฟร์ แต่ต้องเป็นแชมป์เท่านั้น

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม